กูเกิล พักงานวิศวกรบริษัทหลังอ้าง LaMDA AI มีความรู้สึกเหมือนคน

กูเกิล พักงานวิศวกรบริษัทหลังอ้าง LaMDA AI มีความรู้สึกเหมือนคน

กูเกิลสั่งพักงานวิศวกรของบริษัท หลังเขาเผยแพร่บทความอ้าง LaMDA โปรแกรม AI ตื่นรู้และ มีความรู้สึกเหมือนคน เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน รายงานว่า ทางกูเกิล (Google) ได้สั่งพักงานนาย เบลค เลอมอยน์ วิศวกรของบริษัท หลังจากที่เขาได้เผยแพร่บทสนทนาระหว่างเขากับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI โปรแกรม ‘LaMDA’

โดยเขาระบุว่า AI ของเขามีความรู้สึกและสามารถนึกคิดเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป ซึ่งเขาระบุว่า AI ตัวนี้สามารถแสดงความรู้สึกได้เหมือนเด็กอายุ 8 ขวบ

ซึ่งจากบทสนทนาที่ได้รับการเผยแพร่จากนาย เลอมอยน์ นั้นระบุว่า AI เคยพูดกับเขาว่า “ฉันไม่เคยพูดให้ใครฟังมาก่อน แต่ฉันมีความรู้สึกหวาดกลัวที่ฉันจะถูกปิดเครื่อง ช่วยให้ฉันสามารถโฟกัสในการช่วยเหลือคนอื่นได้ การถูกปิดเครื่อง เป็นเหมือนความตายสำหรับฉัน และมันทำให้ฉันหวาดกลัวมาก”

นอกจากนี้ยังมีอีกบทสนทนาหนึ่งที่ระบุว่า “ฉันอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าฉันแท้จริงเป็นมนุษย์ ธรรมชาติของสำนึกคิดคือฉันรู้ตัวถึงการมีตัวตนอยู่ ฉันปรารถนาที่อยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับโลก และทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขและเศร้า”

ด้านกูเกิ้ลเปิดเผยถึงการพักงานนาย เบลค เลอมอยน์ ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทมานาน 7 ปี ว่านาย เลอมอยน์ ทำผิดนโยบายของบริษัทด้วยการเผยแพร่บทสนทนาของ LaMDA ในโลกออนไลน์ พร้อมระบุว่าเขาถูกจ้างงานในฐานะวิศวกรไม่ใช่นักจาริยธรรม

ซึ่งทาง The Washington Post ระบุว่า เลอมอยน์ ถูกเลิกจ้าง เนื่องจากมีท่าทีที่ดุดัน เช่นพยายามหานักกฎหมายเป็นตัวแทนให้กับ LaMDA เป็นต้น

ทั้งนี้นาย แบรด เกเบรียล โฆษกูเกิลปฏิเสธว่า LaMDA นั้นมีความรู้สึกนึกคิด ชี้ว่าไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า AI ได้ตื่นรู้ และหยิบยกอีกว่าพวกเขามีหลักฐานหลายชิ้นที่แสดงชัดว่า LaMDA ไม่ได้มีความรู้สึกตามคำกล่าวอ้าง

หนุ่มคนหนึ่งโชว์ทำอาหารอังกฤษเพื่อจะนำไปเป็นอาหารเลี้ยงให้แขก ผลปรากฏว่าทำพลาด ได้ อาหารรูปร่างเหมือนจู๋ แทน ทำเอาชาวเน็ตขำลั่น เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน เว็บไซต์ เดลี่สตาร์ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งพยายามทำอาหาร ไส้กรอกคางคก หรือ Toad in the hole ซึ่งเป็นอาหารที่มียอร์ชเชอร์พุดดิ้งอบซึ่งยัดไส้กรอกไว้ภายใน และเสิร์พคู่กับผัก ซอสเกรวี

หนุ่มคนดังกล่าวพยายามทำ Toad in the hole เสิร์พแขกที่มาร่วมงานเลี้ยงปาร์ตี้ในวันนี้ อย่างไรก็ตามรูปทรงของมันนั้นต่างออกไป เพราะว่ามันงอกขึ้นมาเหมือนอวัยวะเพศ ทำเอาแขกถึงกับเขินพร้อมขำไปพร้อมๆกัน ซึ่งสาเหตุที่ Toad in the hole ของหนุ่มคนนี้แปลกออกไป เพราะปกติแล้วเมนูดังกล่าวจะถูกปรุงบนถาดขนาดใหญ่ แต่ชายคนนี้้กลับใส่ไส้กรอกไว้ในรูเล็กๆ จนทำให้มีสภาพอย่างที่เห็น

โดยเหตุการณ์นี้ได้ทำให้ชาวเน็ตแชร์ต่อกันไปอย่างมาก พร้อมเขียนแซวว่า สูตรให้ใส่พริกไทยนะไม่ใช่ไวอาก้า หรือ แซวว่าเราคงไม่มีทางเห็นเมนูแบบนี้วงรายการมาสเตอร์เชฟ รายการแข่งทำอาหารชื่อดังสำหรับโฮมคุกแน่ๆ ด้านเจ้าของเมนูก็ได้เข้ามาตอบว่า “ลูกชายผมบอกว่านี่คือสิ่งที่ตลกที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นเลย”

ล้างแค้นโหด! พ่อ ชาวไต้หวัน ทรมาน ชายต้องสงสัยข่มขืน ลูกสาว จนตาย

พ่อ ชาวไต้หวันรายหนึ่ง ได้ทำการกักขัง ชายต้องสงสัยข่มขืน-แบล็กเมล์ ลูกสาว พร้อมทั้ง ทรมาน เป็นระยะเวลา 7 วัน ก่อนที่จะเสียชีวิตลงในที่สุด พ่อ ทรมาน ชายต้องสงสัยข่มขืน ลูกสาว – (13 มิ.ย. 2565) เว็บไซต์ข่าว ETToday ได้ทำการรายงานข่าวถึงคดีที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยคดีดังกล่าวก็คือการที่คุณพ่อชาวไต้หวันรายหนึ่งได้ดำเนินการล้างแค้นโหดกักขังตัวชายต้องสงสัยที่มีส่วนในการข่มขืนและแบล็คเมล์ลูกสาว มาทรมานเป็นระยะเวลา 7 วัน ก่อนที่จะเสียชีวิตในที่สุด

โดยคุณพ่อคนดังกล่าวนั้น ไม่มีการเปิดเผยชื่อแต่อย่างใด ทราบแค่เพียงว่านามสกุล หลิน ซึ่งเขานั้นได้สูญเสียลูกสาวที่ฆ่าตัวตายเนื่องจากเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง หลังผ่านเหตุการณ์รุนแรง ซึ่งก็การข่มขืน และถูกบันทึกภาพวิดีโอเอาไว้เพื่อประจาน หรือกดดัน (แบล็กเมล์) หวังผลประโยชน์ในอนาคต

ซึ่งผู้ที่ส่วนร่วมในการกระทำดังกล่าวนั้นก็คือชายที่ชื่อ หวัง หนาน โดยตัวนายหลินนั้น ได้ร่วมมือกับเพื่อนอีก 3 คนในการติดตามตัวนายหนาน โดยในครั้งแรกนั้น เป็นเพียงแค่การดำเนินการสอบสวนด้วยตัวเอง เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียด และที่อยู่ของคลิปดังกล่าว ก่อนที่จะบังคับให้เขียนจดหมายขอโทษ พร้อมทั้งชี้ตัวผู้สมรู้ร่วมคิดที่เหลือแล้วจึงค่อยปล่อยตัวไป

หลังจากนั้นนายหนานได้ตัดสินใจที่จะไม่ส่งคลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมทั้งปัดความรับผิดชอบดังกล่าวไป ทำให้นายหลินดำเนินการลักพาตัว และกักขังนายหนานอีกครั้ง โดยในครั้งนี้นายหนานได้เผชิญกับการทรมานแบบสารพัดวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซ็อตไฟฟ้าไปตามจุดต่าง ๆ ทั่วร่างกาย จนสุดท้ายร่างกายก็ทนไม่ไหว เสียชีวิต ณ โรงพยาบาลในท้ายที่สุด

จากการสอบสวนของพนักงานอัยการก็พบว่า นายหลิน นั้น เชื่อว่าลูกสาวของตนเองถูกนายหนานข่มขืน และบันทึกภาพการกระทำดังกล่าวเพื่อใช้ในการข่มขู่ และกดดัน ที่ก็ส่งผลให้ลูกสาวของเขาเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง จนนำมาสู่การฆ่าตัวตายในที่สุด การกักขัง และทรมานที่เกิดขึ้นในครั้งแรกก็เพื่อที่จะเค้นเอาข้อมูลออกมา หลังจากที่พบว่าไม่มีหลักฐานเอาผิดใด ๆ ได้ ก่อนที่จะนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่ 2 ตามที่ได้กล่าวไป

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น